Myoma-Fibroids
เนื้องอกมดลูก
นพ.พัฒน์ศมา วิจินศาสตร์วิจัย
วว.สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา, วว.เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์,
ป.ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช, MClinEmbryol,
EFOG-EBCOG., EFRM-ESHRE/EBCOG
21 Jan 2024
เนื้องอกมดลูก (myoma, fibroid) คืออะไร
เนื้องอกในมดลูกเป็นเนื้องอกที่ไม่ร้ายแรง (ไม่ใช่มะเร็ง) ของกล้ามเนื้อมดลูก เนื้องอกมดลูกเกิดขึ้นเมื่อเซลล์กล้ามเนื้อในผนังมดลูกจะขยายตัวและเติบโต เนื้องอกมดลูกสามารถเปลี่ยนรูปร่างหรือขนาดของมดลูกและบางครั้งอาจเป็นปากมดลูก (ส่วนล่างของมดลูก) ผู้หญิงมักจะมีก้อนเนื้องอกมากกว่าหนึ่งก้อน เนื้องอกในมดลูกทำให้เกิดอาการหรือต้องได้รับการรักษาหรือไม่ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ขนาด และจำนวน ประเภทหลักของเนื้องอกขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่พบ แบ่งได้เป็น 3 ประเภทดังนี้
Subserosal อยู่ในผนังด้านนอกของมดลูก (55%)
ภายในพบได้ในชั้นกล้ามเนื้อของผนังมดลูก Intramural (40%)
ยื่นเข้าไปในโพรงมดลูก submucosal (5%)
ดังแสดงในรูปภาพที่ 1
รูปภาพที่ 1 แสดงตำแหน่งต่าง ๆ ของเนื้องอกมดลูก
เนื้องอกดลูกสามารถเชื่อมต่อกับมดลูกได้ด้วยก้าน (pedunculated) หรือติดอยู่กับอวัยวะข้างเคียง เช่น กระเพาะปัสสาวะและลำไส้ ไม่ค่อยพบนอกช่องเชิงกราน
เนื้องอกมดลูกพบได้บ่อยแค่ไหน?
โดยทั่วไปพบเนื้องอกมดลูกได้ใน 20% ของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ แต่พบได้บ่อยในชาวแอฟริกันอเมริกัน (50%-80%)
สาเหตุที่แท้จริงของเนื้องอกในมดลูกยังไม่พบไม่ชัดเจน แต่มีหลักฐานว่าอาจเป็นการผสมผสานระหว่างปัจจัยทางพันธุกรรม ฮอร์โมน และสิ่งแวดล้อม
เนื้องอกมดลูกทำให้มีบุตรยากหรือไม่?
ประมาณ 5%–10% ของผู้หญิงที่มีบุตรยากมีเนื้องอกมดลูก ขนาดและตำแหน่งเป็นตัวกำหนดว่า
เนื้องอกส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ เช่น เนื้องอกที่อยู่ภายในโพรงมดลูก (submucosal) หรือเนื้องอกที่มีขนาดใหญ่ (เส้นผ่านศูนย์กลาง > 6 ซม.)
ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เป็นเนื้องอกมดลูกสามารถมีบุตรได้ ดังนั้นผู้ที่มีเนื้องอกควรได้รับการตรวจหาสาเหตุที่มีบุตรยากอื่น ๆ ทั้งหมดก่อน (รวมทั้งสาเหตุจากฝ่ายชาย) ก่อนจะสรุปว่าเนื้องอกเป็นสาเหตุและทำการรักษาเนื้องอกมดลูก
เนื้องอกมดลูกทำให้มีบุตรยากได้อย่างไร?
การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของปากมดลูกอาจส่งผลต่อจำนวนอสุจิที่สามารถเข้าสู่มดลูกได้
การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของมดลูกอาจรบกวนการเคลื่อนไหวของตัวอสุจิหรือตัวอ่อน
ท่อนำไข่อาจอุดตันโดยเนื้องอก
ผลต่อเยื่อบุมดลูก
การไหลเวียนของเลือดไปยังโพรงมดลูกอาจได้รับผลกระทบ ทำให้ลดความสามารถในการฝังตัวของตัวอ่อน
การวินิจฉัยเนื้องอกมดลูกทำได้อย่างไร
ส่วนใหญ่การตรวจด้วยอัลตราซาวดน์สองมิติทางช่องคลอด (2D-TVUS) หรือหน้าท้อง (abdominal ultrasound) มักเพียงพอในการวินิจฉัย
รูปภาพที่ 2 แสดงหัวตรวจอัลตราซาวดน์ช่องคลอด (2D-TVUS)
กรณีที่ก้อนเนื้องอกมดลูกใหญ่เกินอุ้งเชิงกรานออกไป การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) อาจมีความจำเป็นเพื่อระบุตำแหน่งของก้อนที่แม่นยำขึ้น
รูปภาพที่ 3 แสดงการผ่าตัดแบบส่องกล้องในช่องท้อง (laparoscopy) และการผ่าตัดผ่านกล้องส่องโพรงมดลูก (hysteroscopy)
การรักษาเนื้องอกมดลูกทำอย่างไร?
ปัจจุบันการรักษาเนื้องอกมดลูกอาศัยการผ่าตัดเป็นหลัก เนื่องจากไม่มียาที่สามารถลดขนาดก้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดเนื้องอกมดลูก
มีข้อบ่งชี้ดังต่อไปนี้
เนื้องอกอยู่ภายในโพรงมดลูก (submucosal myoma) ในผู้มีบุตรยาก
เนื้องอกขนาดมากกว่า 6 ซม ชนิด intramural ในผู้มีบุตรยาก
มีประจำเดือนมากจนซีด
มีอาการของเนื้องอกไปกดเบียดอวัยวะข้างเคียง เช่น ปัสสาวะบ่อย
การผ่าตัดรักษาเนื้องอกมดลูกทำได้อย่างไรบ้าง
การผ่าตัดรักษาเนื้องอกมดลูกทำได้หลายกรณี
ตัดมดลูกออก (hysterectomy) ในกรณีที่ไม่ต้องการมีบุตรแล้วหรือเนื้องอกมีจำนวนและขนาดมากจนไม่สามารถผ่าตัดเฉพาะก้อนออกได้ ทำได้ทั้งการเปิดหน้าท้องและผ่าตัดผ่านกล้อง (laparoscopy) ขึ้นอยู่กับขนาดมดลูกและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ดูแลรักษา
ผ่าตัดเฉพาะก้อนเนื้องอกมดลูกออก (myomectomy) ทำได้ทั้งการเปิดหน้าท้องและผ่าตัดผ่านกล้องในกรณี subserous, intramural หรือ submucous ที่มีขนาดใหญ่ และสามารถทำผ่านกล้องส่องโพรงมดลูกได้ (hysteroscopy) กรณีที่ก้อนยื่นเข้าไปในโพรงมดลูกที่ขนาดไม่ใหญ่นัก (ไม่เกิน 3 ซม.)
หากมีเนื้องอกมดลูกอยู่ขณะตั้งครรภ์จะเกิดอะไรขึ้น
ในสตรีมีครรภ์สามารถพบเนื้องอกมดลูกได้ 2% ถึง 12% เนื้องอกมดลูกอาจโตขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ได้ โดยเฉพาะในช่วง 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์
ประเด็นที่น่ากังวลที่สุดของการมีเนื้องอกมดลูกขณะตั้งครรภ์ก็คือเนื้องอกจะเพิ่มโอกาสการคลอดก่อนกำหนดหรือการแท้งบุตร ในบางกรณีเนื้องอกมดลูกอาจโตเร็วเกินกว่าที่จะมีเลือดไปเลี้ยงเพียงพอ ทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง และจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล นอกจากนี้เนื้องอกยังสามารถเบียดการเจริญเติบโตของทารก ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร การคลอดก่อนกำหนด และการผ่าตัดคลอด
วิธีการจัดการเนื้องอกในเนื้องอกนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะเฉพาะของคุณสถานการณ์และคำแนะนำของแพทย์ การผ่าตัดไม่ค่อยจำเป็นหรือดำเนินการในระหว่างตั้งครรภ์ หากสตรีตั้งครรภ์หลังจากผ่าตัดเนื้องอกออกแล้วควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ที่ดูแล