นพ.พัฒน์ศมา วิจินศาสตร์วิจัย
วว.สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา, วว.เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์,
ป.ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช, MClinEmbryol,
EFOG-EBCOG., EFRM-ESHRE/EBCOG.
Update: 11 Oct 2023
Keywords: มดลูกวิรูป; T-shaped uterus; dysmorphic uterus; decreased menses; hypomenorrhea; small uterus; infertility; มีลูกยาก; อยากมีลูก; แท้งบ่อย; แท้ง
มดลูกวิรูป (Dysmorphic uterus, T-shaped uterus) เป็นความผิดปกติแต่กำเนิดของมดลูกที่พบได้บ่อยในผู้ที่มีบุตรยากไทย หมอเคยเก็บข้อมูลวิจัยในคนไข้มีบุตรยากทุกรายที่มาเริ่มรักษาด้วยอัลตราซาวนด์สามมิติ (3D-TVUS) พบความชุกของมดลูกวิรูปสูงถึงร้อยละ 27 ในกลุ่มผู้ป่วยมีบุตรยาก และพบว่าความผิดปกติแต่กำเนิดของมดลูกเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะมีบุตรยากที่มีการวินิจฉัยผิดพลาดมากที่สุด (ทั้งที่ตรวจไม่พบความผิดปกติและพบแต่วินิจฉัยเป็นภาวะอื่น) แม้ว่าการรักษาจะทำได้ไม่ยากและผลการรักษาจะทำให้ผู้ป่วยท้องเองได้เกือบร้อยละ 50
การประเมินมดลูกว่าปกติหรือผิดปกติอันดับแรกต้องเคลียร์กันเรื่องมุมที่เราจะใช้มองกันก่อน มดลูกโดยทั่วไปลักษณะเหมือนเนื้อแผ่นแบน ๆ 2 แผ่นประกบกันในแนวหน้า-หลัง (เรียกส่วนนี้ว่ากล้ามเนื้อมดลูก/myometrium) และโพรงมดลูกที่มีเยื่อบุมดลูก (endometrium) บุอยู่จะอยู่ระหว่างเนื้อแผ่น 2 แผ่นนี้ ดังแแสดงในรูปภาพที่ 1A
นอกจากนี้ในสตรีวัยเจริญพันธุ์ปกติ ความยาวของมดลูกจะยาวประมาณ 7 ซม.โดยตัวมดลูกยาวประมาณ 4-5 ซม. และปากมดลูกยาวประมาณ 2-3 ซม.หรือสัดส่วนตัวมดลูก: ปากมดลูก = 2:1 (รูปภาพที่ 1B)
รูปภาพที่ 1 A. แสดงชั้นของเนื้อเยื่อในตัวมดลูกซึ่งประกอบไปด้วยองค์ประกอบคร่าว ๆ 2 ส่วนคือเยื่อบุมดลูก (endometrium) และกล้ามเนื้อมดลูก (myometrium) B. แสดงส่วนต่าง ๆ ของมดลูกอันเจริญพัฒนามาจากท่อ Müllerian ได้แก่ ปากมดลูก (cervix) ตัวมดลูก (corpus uteri) และท่อนำไข่ (fallopian tubes)
ลักษณะสุดท้ายก็คือรูปร่างของโพรงมดลูกเมื่อมองแนวหน้าหลัง (midcoronal view) จะเป็นสามเหลี่ยมหัวกลับ (รูปภาพที่ 2A.) และกล้ามเนื้อมดลูกที่ขนาบโพรงมดลูกอยู่สามด้านจะมีความหนาใกล้เคียงกัน
มดลูกวิรูป (dysmorphic uterus) หรือมดลูกรูปตัว T (T-shaped uterus) เป็นความผิดปกติแต่กำเนิดของมดลูกอันเกิดมาจากการสร้างกล้ามเนื้อมดลูกที่ผิดปกติ มีชั้นที่กล้ามเนื้อลักษณะเป็นวงหนาเกินไป ทำให้รัดโพรงมดลูกจนแคบลงมาเหมือนตัวอักษร T ในภาษาอังกฤษ (รูปภาพที่ 2B.)
รูปภาพที่ 2 A. แสดงลักษณะมดลูกปกติ สังเกตโพรงมดลูก (บริเวณสีน้ำตาล) จะมีลักษณะเป็นเหมือนรูปสามเหลี่ยมหัวกลับ
B. แสดงลักษณะมดลูกวิรูป สังเกตโพรงมดลูกจะแคบกว่ามดลูกปกติลักษณะคล้ายอักษร T ในภาษาอังกฤษ ทั้งนี้เนื่องจากกล้ามเนื้อมดลูกบริเวณด้านข้างมีความหนาตัวผิดปกติทำให้บีบให้โพรงมดลูกแคบและเล็ก
มดลูกวิรูปสัมพันธ์กับการมีเลือดมาเลี้ยงเยื่อบุโพรงมดลูกน้อย เลือดมาเลี้ยงที่มดลูกผิดปกติ การบีบตัวของมดลูกผิดปกติ การรับตัวอ่อน (endometrium receptivity) การฝังตัวของตัวอ่อน (implantation) และการขยายตัวของมดลูกขณะตั้งครรภ์ผิดปกติ
คนไข้ที่เป็นมดลูกวิรูปถ้าไม่ต้องการมีลูกก็อาจจะไม่ได้มีโอกาสมาตรวจเจอเลยเนื่องจากมักไม่พบว่าปัญหาทางนรีเวชอื่น ๆ จะทำให้คนไข้มีความผิดปกติจนต้องมาตรวจ แต่เมื่อพิจารณาถึงการฝังตัวของตัวอ่อนและการตั้งครรภ์จะพบว่ามดลูกวิรูปทำให้โอกาสการฝังตัวของตัวอ่อนลดลงและการยืดขยายตัวของมดลูกเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ได้ลำบากมากขึ้น ดังนั้นหากมีอาการต่อไปนี้ควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการประเมิน ดังแสดงในรูปภาพที่ 3
1. #ประจำเดือนออกน้อย ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ แต่ปริมาณน้อย (วันมามากใช้ผ้าอนามัยไม่เกิน วันละ 3 แผ่น แถมไม่เต็มแผ่นซะด้วยสิ)
2. #แท้งบุตรในไตรมาสแรก ตั้งแต่เจอตัวเด็กแต่หัวใจไม่เต้น ท้องลม ท้องนอกมดลูกหรือแม้แต่เคยตรวจเลือดพบว่าท้อง (ฮอร์โมน hCG ขึ้นสักพักก็ลงไปเอง)
3. #ความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง (Hct) 40% ขึ้นไป หญิงวัยเจริญพันธุ์มีประจำเดือนทุกเดือนหนะ ถ้าเลือดออกปกติจะมี Hct สัก 35-39% นะ ถ้าคนไหนเลือดเข้มข้นเกิน 40% ขึ้นไปก็สังเกตดี ๆ
4. #ไปตรวจกับหมอมีบุตรยาก แต่รักษาแล้วไม่ท้องสักที ไม่ว่าจะทำเด็กหลอดแก้ว ตรวจโครโมโซมแล้ว ก็ยังไม่ติด หมอจะบอกงี้ ปกติหญิงวัยเจริญพันธุ์ร้อยละ 80 พบเนื้องอกมดลูก หญิงมีบุตรยากร้อยละ 50 พบเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ สาเหตุเหล่านี้ตรวจพบได้ง่ายด้วยอัลตราซาวนด์ปกติ ถ้ามดลูกปกติมาก ๆ เลยนี่ก็ควรให้สงสัยเหมือนกันว่าความปกตินี่มันปกติมุมไหนกันนะ นอกจากนี้สมการเบื้องตันของการมีลูกเลยคือต้องการ ตัวอ่อนปกติ + มดลูกปกติ ถ้าย้ายตัวอ่อนปกติมาสักพักแล้วยังไม่ท้องสักที หมอว่าน่าจะมองไปที่มดลูกบ้างก็ดี
รูปภาพที่ 3 แสดงอาการหรือกลุ่มอาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยมดลูกวิรูป (dysmorphic T-shaped uterus)
อยากรู้ว่าท่านมีโอกาสเป็นมดลูกวิรูปหรือไม่ ประเมินได้ด้วยตนเอง ที่นี่
มดลูกวิรูปมีการตรวจเพื่อนำมาซึ่งการวินิจฉัยหลายวิธี แต่ละวิธีมีความไวที่แตกต่างกัน บางวิธีขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้ตรวจ ดังแสดงในตารางที่ 1
ตารางที่ 1 แสดงความเหมาะสมในการเลือกใช้วิธีการตรวจเพื่อวินิจฉัยมดลูกวิรูป (dysmorphic T-shaped uterus)
โดยเครื่องมือที่นำมาวินิจฉัยต้องให้ข้อมูลต่อไปนี้ได้อย่างแม่นยำ
แสดงภาพตัดมดลูกแนวหน้าหลัง (mid-coronal view)
ผิวมดลูกภายนอก (external contour of uterus) ต้องบอกได้ว่าผิวมดลูกด้านนอกเรียบหรือมีรอยหวำลงมา
รูปร่างโพรงมดลูก (internal uteirne cavity)
เป็นการใช้กล้องส่องเข้าไปในโพรงมดลูกผ่านช่องคลอดและปากมดลูก ทำให้ไม่มีแผลผ่าตัด ปัจจุบันนวัตกรรมทางเทคโนโลยีการเก็บภาพทางการแพทย์ที่ก้าวหน้ามากขึ้นทำให้ขนาดกล้องส่องโพรงมดลูกเพื่อวินิจฉัยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3-4 มม. เท่านั้น นอกจากนี้เทคนิคการใส่กล้องผ่านช่องคลอด (vaginoscopy) ทำให้ไม่ต้องใส่อุปกรณ์ถ่างช่องคลอด (speculum) และเครื่องมือจับปากมดลูก (tenaculum) ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายมากขึ้น เนื่องจากความเจ็บปวดน้อยลง ลักษณะมดลูกวิรูปที่ตรวจพบผ่านกล้องส่องโพรงมดลูกเป็นดังแสดงในรูปภาพที่ 4
รูปภาพที่ 4 แสดงลักษณะมดลูกมุมกว้าง (panoramic view) ของโพรงมดลูกผ่านกล้องส่องโพรงมดลูก (hysteroscope)
A. มดลูกปกติ (normal uterus) เห็นโพรงมดลูกกว้าง เยื่อบุมดลูกสีชมพูและเห็นรูเปิดท่อนำไข่ทั้งสองข้าง (⬆︎ลูกศรแสดงรูเปิดท่อนำไข่)
B. มดลูกวิรูป (dysmorphic uterus) เห็นลักษณะโพรงมดลูกแคบลึกเข้าไปเหมือนอุโมงค์ เยื่อบุมดลูกสีซีด และไม่เห็นรูเปิดท่อนำไข่
สามารถปรับภาพมดลูกให้อยู่ในแนวหน้าหลังได้ชัดเจน (mid-coronal view) ทำให้ประเมินได้ทั้ง external contour และ internal cavity โดยมีความแม่นยำสูง ราคาไม่แพง สามารถตรวจและทราบผลได้ทันที อาศัยประสบการณ์ของผู้ตรวจไม่มากนัก แต่ต้องการการฝึกฝนทักษะการตรวจอัลตราซาวนด์เพิ่มเติม ลักษณะของมดลูกวิรูปจากการตรวจอัลตราซาวนด์สามมิติทางช่องคลอดดังแสดงในรูปภาพที่ 5
รูปภาพที่ 5 แสดงลักษณะลักษณะของมดลูกวิรูปจากการตรวจอัลตราซาวนด์สามมิติทางช่องคลอด (3D-TVUS)
A. มดลูกปกติ (normal uterus) เห็นมดลูก 1 อัน โพรงมดลูกโพรงเดียว ลักษณะโพรงมดลูกเป็นรูปสามเหลี่ยม
B. มดลูกวิรูป (dysmorphic uterus) เห็นมดลูก 1 อัน โพรงมดลูกโพรงเดียว โพรงมดลูกด้านข้างมีกล้ามเนื้อมดลูกหนาทำให้โพรงมดลูกรูปร่างคล้ายตัวอักษร T
สามารถเห็นภาพมดลูกด้านข้าง (saggital veiw) เท่านั้น ทำให้ไม่ค่อยเหมาะสมกับการวินิจฉัยมากนัก เนื่องจากผู้ตรวจต้องมีทักษะอัลตราซาวนด์ระดับสูง และต้องอาศัยจินตนาการของผู้ตรวจไม่สามารถวัดมุมใน coronal view ได้ ทำให้ความแม่นยำไม่ดี
เป็นการตรวจเช่นเดียวกับการตรวจท่อนำไข่ สามารถเห็น internal cavity ได้ แต่ไม่สามารถบอก external contour ได้ ทำให้ความแม่นยำต่ำ
ปัจจุบันยังไม่มีการรักษามดลูกวิรูปที่เป็นรูปแบบที่ยอมรับกันทั่วไป และยังขาดการศึกษาถึงผลของการรักษาด้วยการวิจัยที่มีกลุ่มเปรียบเทียบ (RCT) แต่อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกเห็นเหมือนกันว่า ผู้ที่มีมดลูกวิรูปที่ต้องการมีบุตรควรได้รับการผ่าตัดปรับโพรงมดลูกให้เป็นปกติผ่านกล้องส่องโพรงมดลูก (hysteroscopic metroplasty) ซึ่งงานวิจัยทุกชิ้นมีผลไปในทางเดียวกันคือหลังจากการผ่าตัดผู้ป่วยจะมีการตั้งครรภ์ที่ดีขึ้น ลดการแท้งบุตร
รูปภาพที่ 6 แสดงการรักษามดลูกวิรูป (dysmorphic T-shaped uterus) ด้วยการผ่าตัดแก้ไขผ่านกล้องส่องโพรงมดลูก (hysteroscopic metroplasty)
Hysteroscopic metroplasty สามารถผ่าตัดได้ในช่วงต้นของรอบระดูก่อนตกไข่ (early follicular phase) เนื่องจากผนังมดลูกยังไม่หนา และมดลูกไม่บีบตัวต้านการทำงานของเครื่องมือ มีหลักการดังแสดงในรูปภาพที่ 6 กล่าวคือเป็นการตัดกล้ามเนื้อมดลูกด้านซ้าย-ขวาให้ขาดออกจากกันในแนวเส้นตรง และค่อย ๆ ตัดกล้ามเนื้อมดลูกในแนวดังกล่าวให้ลึกลงไปเรื่อย ๆ จนเห็นจุดเปิดของท่อนำไข่ (tubal ostium) จากการมองขึ้นไปจากส่วน isthmus ของมดลูก โดยไม่มีการตัดชิ้นส่วนของมดลูกใด ๆ ออกไป ยกเว้นพบพยาธิสภาพอื่น ๆ ในโพรงมดลูกร่วมด้วย เช่น ติ่งเนื้อในโพรงมดลูก หรือเนื้องอกมดลูกชนิด submucous
หลังผ่าตัดผู้ป่วยมักสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้แทบจะปกติ เนื่องจากการผ่าตัดเป็นการใส่กล้องผ่านปากมดลูกเข้าไปในโพรงมดลูก ไม่มีแผลที่หน้าท้อง อาจมีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย โดยเฉพาะภายใน 1 สัปดาห์แรก
แนะนำให้งดเพศสัมพันธ์ 1 เดือนหลังจากการผ่าตัดหรือจนกว่าประจำเดือนรอบถัดไปจะมา เนื่องจากอาจทำให้โพรงมดลูกอักเสบติดเชื้อได้
พังผืดในโพรงมดลูกหลังผ่าตัดสามารถป้องกันได้โดยการวางแนวแผลให้อยู่บริเวณซ้าย-ขวาซึ่งโอกาสเกิดแผลเป็นน้อยมาก การใส่เจลป้องกันพังผืดในโพรงมดลูกทันทีหลังผ่าตัด การให้รับประทานฮอร์โมนเอสโตรเจนขนาดสูงเพื่อกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญมาคลุมบริเวณที่ทำการผ่าตัด การป้องกันการติดเชื้อหลังผ่าตัดด้วยยาปฏิชีวนะ เป็นต้น
หลังผ่าตัดผู้ป่วยควรได้รับการประเมินลักษณะของโพรงมดลูกอีกครั้งด้วย diagnostic hysteroscopy หรืออัลตราซาวนด์สามมิติทางช่องคลอด (3D-TVUS) เพื่อประเมินรูปร่างของโพรงมดลูกหลังผ่าตัดว่ากลับมาเป็นลักษณะปกติแล้วหรือไม่
การตรวจด้วย diagnostic hysteroscopy ด้วยเทคนิค vaginoscopy สามารถทำได้ที่ผู้ป่วยนอก ใช้เวลาไม่นาน โดยผู้ป่วยรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยหรือไม่มีความเจ็บปวดเลย (รูปภาพที่ 7)
รูปภาพที่ 7 แสดงโพรงมดลูกจากการตรวจ diagnostic hysteroscopy ในผู้ป่วยที่มีมดลูกวิรูป (dysmorphic uterus) รายเดียวกัน A. โพรงมดลูกก่อนผ่าตัด สังเกตสีเยื่อบุมดลูกซีด โพรงมดลูกแคบลึกและไม่เห็นรูเปิดท่อนำไข่ B. โพรงมดลูกหลังผ่าตัด hysteroscopic metroplasty 5 สัปดาห์ แสดงโพรงมดลูกกว้างปกติ เยื่อบุมดลูกมีเลือดมาเลี้ยงปกติและเห็นรูเปิดท่อนำไข่ทั้งสองข้าง
แผนการมีบุตรหลังผ่าตัดสามารถปล่อยให้มีบุตรตามธรรมชาติหรือเริ่มกระตุ้นไข่ทำเด็กหลอดแก้วได้เลยหลังจากตรวจหลังผ่าตัดแล้ว
กรณีวางแผนย้ายตัวอ่อนแช่แข็งแนะนำให้พักอย่างน้อย 2 รอบเดือนค่อยเริ่มเตรียมผนังมดลูกเพื่อย้ายตัวอ่อนแช่แข็งต่อไป
LIFE by Dr. Pat ได้เปิดประตูรักษาผู้ที่มีปัญหาด้านมีบุตรยากและสุขภาพสตรีมาเกือบ 2 ปี แล้วนะครับ สถานที่อาจจะใหม่แต่หมอไม่ใหม่แน่นอน (จะเกษียณอีกไม่กีปีแล้ว) จากปีกว่า ๆ ที่หมอผ่าตัดคนไข้มดลูกวิรูป (dysmorphic uterus) ด้วยกล้องส่องโพรงมดลูกด้วยเทคนิค Digital hysteroscopy clinic ที่ทำให้การผ่าตัดโพรงมดลูกผ่านกล้องมีความปลอดภัย แม่นยำและสะดวกมากขึ้น ปรับโพรงมดลูกให้เป็นปกติพร้อมต่อการรับตัวอ่อนต่อไป ระยะเวลาที่ผ่านมามีคนไข้ที่ผ่านการผ่าตัดที่นี่เกือบร้อยราย หมอก็รวบรวมผลการตั้งครรภ์ในคนไข้มดลูกวิรูปหลังการผ่าตัดเป็นอย่างไรบ้าง มาดูกันครับ
พบว่าผู้ที่มีมดลูกวิรูปที่ได้รับการแก้ไขแล้วสามารถตั้งครรภ์ได้ถึง 72.5% ภายในปีแรกหลังจากการผ่าตัด
หลังผ่าตัดผู้ป่วย 66.7% ตั้งครรภ์เอง
ผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ 33.3 %ต้องอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ (IVF, ICSI)
พบว่าไม่ว่าคนไข้จะท้องเองหรือเด็กหลอดแก้ว ใช้เวลาประมาณ 5 เดือนกว่า ๆ
มดลูกวิรูป (dysmorphic T-shaped uterus) เป็นความผิดปกติแต่กำเนิดของมดลูกที่พบได้บ่อยในผู้มีบุตรยากและเป็นสาเหตุของภาวะมีบุตรยากและแท้งบุตร
ผู้ป่วยมักมีประจำเดือนออกน้อย (วันมามากใช้ผ้าอนามัยไม่เกิน 3 แผ่น ประจำเดือนมาน้อยกว่า 4 วัน) แท้งบ่อย ทำเด็กหลอดแก้วและย้ายตัวอ่อนที่ตรวจโครโมโซมปกติแล้วไม่ท้อง
การวินิจฉัยใช้อัลตราซาวนด์สามมิติ (3D-TVUS) หรือกล้องส่องโพรงมดลูก
รักษาด้วยการผ่าตัดปรับโพรงมดลูกผ่านกล้อง (hysteroscopic metroplasty)
การผ่าตัดเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์และลดโอกาสการแท้งอย่างชัดเจน
พัฒน์ศมา วิจินศาสตร์วิจัย. บทที่ 11 มดลูกวิรูป Dysmorphic uterus. ใน พัฒน์ศมา วิจินศาสตร์วิจัย. ความผิดปกติแต่กำเนิดของมดลูก Congenital malformation of uterus. พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2565
Coelho Neto MA, Ludwin A, Petraglia F, Martins WP. Definition, prevalence, clinical relevance and treatment of t-shaped uterus: Systematic review. https://doi.org/10.1002/uog.23108. Ultrasound in Obstetrics & Gynecology. 2021/03/01 2021;57(3):366-377.